แนะเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย ทำอย่างไรถึงรอด
ในภาวะที่หมูราคาตกต่ำ ราคาขายหน้าฟาร์มเหลือเพียงกิโลกรัมละ 43 บาท
จากเมื่อก่อนราคากิโลกรัมละ 63 บาท
เกษตรกรผู้เลี้ยงต้องเจอภาวะขาดทุนตัวละ 800-1,000 บาท
และนอกจากขาดทุนแล้วเกษตรกรยังต้องเผชิญกับภาวะกดดันจากการแทรกแซงการตลาดของนายทุนใหญ่ที่เข้ามาครองตลาดไปกว่าครึ่ง
ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยต้องยอมแพ้ปิดกิจการ สาบสูญกันไปตามๆ กัน
จะอยู่ได้ก็แต่เพียงเกษตรที่สืบทอดกิจการจากรุ่นสู่รุ่น มีเงินทุนหมุนเวียนที่ดี
ทำกันเองเป็นอุตสาหกรรมครอบครัวเพื่อลดต้นทุน
หากจะหาเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายใหม่หาได้ยาก หรืออาจหาไม่ได้ด้วยซ้ำ
ที่เห็นตอนนี้ก็จะมีแต่ทุบเล้าหมูทิ้ง ขายกระเบื้องขายที่
เอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจอย่างอื่น
แต่อย่างไรผู้คนในประเทศก็ยังต้องบริโภคหมูเป็นอาหารหลัก
เกษตรกรผู้เลี้ยงก็ต้องสู้กันไป และควรสู้อย่างไรให้อยู่รอดพ้นวิกฤตไปให้ได้
ในภาวะที่หมูราคาตกต่ำ ราคาขายหน้าฟาร์มเหลือเพียงกิโลกรัมละ 43 บาท
จากเมื่อก่อนราคากิโลกรัมละ 63 บาท
เกษตรกรผู้เลี้ยงต้องเจอภาวะขาดทุนตัวละ 800-1,000 บาท
และนอกจากขาดทุนแล้วเกษตรกรยังต้องเผชิญกับภาวะกดดันจากการแทรกแซงการตลาดของนายทุนใหญ่ที่เข้ามาครองตลาดไปกว่าครึ่ง
ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อยต้องยอมแพ้ปิดกิจการ สาบสูญกันไปตามๆ กัน
จะอยู่ได้ก็แต่เพียงเกษตรที่สืบทอดกิจการจากรุ่นสู่รุ่น มีเงินทุนหมุนเวียนที่ดี
ทำกันเองเป็นอุตสาหกรรมครอบครัวเพื่อลดต้นทุน
หากจะหาเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายใหม่หาได้ยาก หรืออาจหาไม่ได้ด้วยซ้ำ
ที่เห็นตอนนี้ก็จะมีแต่ทุบเล้าหมูทิ้ง ขายกระเบื้องขายที่
เอาเงินไปลงทุนทำธุรกิจอย่างอื่น
แต่อย่างไรผู้คนในประเทศก็ยังต้องบริโภคหมูเป็นอาหารหลัก
เกษตรกรผู้เลี้ยงก็ต้องสู้กันไป และควรสู้อย่างไรให้อยู่รอดพ้นวิกฤตไปให้ได้
คุณรัชนีวรรณ
นอกจากเลี้ยงหมูแล้ว ยังมีการทำไร่ ทำสวน เป็นการหารายได้เสริม หากหมูราคาตก
ก็ลดจำนวนการเลี้ยงหมูลง หรือหยุดเลี้ยงไปสักพัก มาหารายได้จากการทำสวนแทน
แต่หากจะให้เลิกอาชีพเลี้ยงหมูเลิกไม่ได้เพราะเป็นอาชีพที่รัก
มีกินมีใช้ได้เพราะหมู และอีกอย่างที่เขาชอบเลี้ยงหมูเพราะไม่เหนื่อยมาก
ไม่ต้องไปทำงานตากแดด ตากลม ถึงเวลาให้อาหาร ทำความสะอาดโรงเรือน แค่นี้
เลี้ยงหมูไม่ยากอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่
“อย่างที่บอกไปว่าอาชีพเลี้ยงหมูเป็นอาชีพที่ผมรัก ดังนั้น
หากใครจะเลี้ยงหมูอย่างแรกต้องมีใจรักก่อน ถ้ามีใจรักอย่างอื่นจะง่าย
การเลี้ยงหมูเป็นอาชีพที่เลี้ยงไม่ยาก แต่ต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่
ต้องหมั่นทำความสะอาด ถ้าปฏิบัติตามนี้ได้การเลี้ยงหมูไม่ใช่เรื่องยาก
การเลี้ยงหมูจะมีกลิ่นแรง โจทย์ของเราคือจะจัดการดูแลฟาร์มของเราอย่างไรให้สะอาด
ไม่มีแมลงวัน และที่สำคัญไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนเพื่อนบ้าน
ซึ่งข้อนี้ถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทาย แต่ที่ฟาร์มของเราสามารถทำได้ด้วยวิธีง่ายๆ
เพียง 1. หมั่นดูแลทำความสะอาดฉีดน้ำล้างคอกหมูทุกวัน 2.
ขยันฉีดฆ่าเชื้อ ที่ฟาร์มของคุณรัชนีวรรณจะมีการฉีดฆ่าเชื้อทุกวัน
การฉีดไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงซื้อยาฆ่าเชื้อ 1 แกลลอน
บรรจุยา 5 ลิตร ราคา 1,350 บาท
ใช้ครั้งละ 200 ซีซี ผสมน้ำเปล่า 20 ลิตร
ใช้ปั๊มสามสูบฉีดพ่นทำความสะอาดโรงเรือน 3 หลังทุกเช้า
วิธีนี้ใช้แล้วได้ผล ราคาไม่แพงถ้าเทียบกับการที่ไม่ต้องเสี่ยงกับโรค สะอาด
เชื้อโรคไม่ถามหา” เจ้าของเล่า
โรงเรือนสะอาด ไม่มีแมลงวันมารบกวน
เลี้ยงอย่างไรให้อยู่รอดในภาวะหมูราคาตก
คุณรัชนีวรรณ
บอกว่า ไม่มีวิธีอะไรที่ซับซ้อนเลย แค่ต้องเลี้ยงเอง ไม่แนะนำให้จ้างแรงงาน
ถ้าสามารถทำกันเองได้ในครอบครัว อย่างตนเองทำกันเป็นอุตสาหกรรมครอบครัว มีสามี
มีลูกชายอีก 1 คน ช่วยกันเลี้ยง ที่ฟาร์มเลี้ยงหมูครั้งละ 700-800 ตัวก็ดูแลกันเอง
หมูเสียหายน้อย ไม่มีต้นทุนอะไรมาก เมื่อราคาตกเราก็อยู่กันได้
อาหารที่ใช้เลี้ยงก็ผสมเองตามสูตรที่สัตวบาลแนะนำ ช่วยลดต้นทุนได้เยอะ
ทุกวันนี้ครอบครัวผมสร้างรายได้จากการเลี้ยงหมูเดือนละล้าน
หักต้นทุนแล้วก็พออยู่ได้
ลูกหมูไปซื้อจากฟาร์มที่เชื่อถือได้
เริ่มซื้อมาขุนตั้งแต่หมูน้ำหนัก 20 กิโลกรัม ใช้เวลาเลี้ยง 5 เดือน
ขุนจนหมูน้ำหนัก 120 กิโลกรัมถึงจับขาย
วิธีเลี้ยง
1
คอก จะปล่อยหมูเลี้ยง 20-25 ตัวในหน้าหนาว
ถ้าหน้าร้อนจะลดปริมาณหมูเหลือคอกละ 17-18 ตัว
เพื่อไม่ให้หมูเครียด
1
คอก เลี้ยงหมู 20-25 ตัว
การให้อาหารให้แบบลานสาด
เลี้ยงแบบใกล้ชิด วิธีนี้จะช่วยให้ดูแลได้ทั่วถึง
หมูโตเสมอกันเพราะเราสามารถมองเห็นทุกตัวว่าตัวไหนได้กินตัวไหนไม่ได้กิน
ดูแลง่ายเมื่อเกิดโรคเราจะยับยั้งทันเพราะเราเห็นหมูของเราทุกวันเช้า-เย็น
ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการเดินมาให้อาหารหมู
หากให้แบบรางกลจะไม่สามารถเห็นได้ว่าหมูตัวนี้ได้กินอาหารไหม
หรือหมูตัวนี้ติดโรคไหม
เทคนิคจัดการกลิ่นไม่ให้รบกวนเพื่อนบ้าน
“อย่างที่บอกไปตอนแรกคือ 1. ต้องหมั่นล้างทำความสะอาด
ฉีดยาฆ่าเชื้อทุกวัน 2. ระบบจัดการน้ำต้องดี
ที่นี่ใช้น้ำที่ทางกรมชลประทานปล่อยมา ไม่ได้ขุดน้ำบาดาลมาใช้
แต่เรามีระบบการจัดการที่ดี ไม่ให้เล้าหมูมีกลิ่นรบกวนเพื่อนบ้านคือต้องคำนึงเรื่องสถานที่
น้ำจะเก็บอย่างไร ไม่ให้ไปรบกวนด้านนอก ที่นี่มีระบบบ่อเกิดกาก บ่อเกิดน้ำใส
มีการระบายน้ำขี้หมูเข้าสวนมะพร้าวไปบำบัดเอง แล้วจึงดึงออกมาใช้
ถือว่าได้ประโยชน์สองต่อ คือได้บำบัดน้ำด้วยส่วนขี้หมูปล่อยเข้าสวนถือว่าเป็นปุ๋ยให้มะพร้าวล้วนๆ
เมื่อมะพร้าวดูดไปก็เติมน้ำสะอาดเข้าไปครึ่งหนึ่ง เปรียบเสมือนมีการถ่ายเทน้ำตลอด
เมื่อนำไปใช้จะดูดขึ้นแท็งก์พักไว้ฆ่าเชื้อโรค แล้วใช้ปั๊มสูบน้ำเข้าคอก” คุณรัชนีวรรณ อธิบาย
โรงเรือนผสมอาหารหมู
หมูโตเร็วด้วยเทคนิคอาบน้ำให้หมู
การอาบน้ำให้หมูเป็นวิธีที่ทำมานานตั้งแต่สมัยโบราณ
แต่ในปัจจุบันพบเห็นได้น้อยเนื่องจากวิธีนี้เปลืองน้ำ ทำให้คอกเละดูแลยาก
ส่วนใหญ่จะเลี้ยงแบบแห้งคือไม่มีการอาบน้ำให้น้ำเลย
แต่ที่นี่เรื่องนี้มีการบำบัดไม่ได้เปลืองอะไร การอาบน้ำให้หมูมีข้อดีหลายอย่าง 1. หมูไม่เครียด
ไม่กัดกัน 2. เมื่อหมูไม่เครียดส่งผลให้หมูโตเร็ว
น้ำสามารถช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี วิธีนี้เกษตรกรสามารถทำตามได้ไม่ยาก
เพียงแต่ต้องมีการดูแลทำความสะอาดคอกให้ดี
เปิดน้ำให้หมูอาบ ลดความเครียด หมูโตเร็ว
ข้อคิดสำหรับเกษตรกรมือเก่า-ใหม่
คุณรัชนีวรรณบอกว่า
ปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูค่อยๆ สาบสูญกันไปทีละราย
อย่างบริเวณใกล้เคียงบ้านของตนเอง เมื่อก่อนมีฟาร์มหมูหลายสิบฟาร์ม
ปัจจุบันเหลือไม่ถึงสิบฟาร์มเป็นเพราะด้วยปัจจัยที่กล่าวข้างต้น
แต่อยากฝากถึงเกษตรกรที่เลี้ยงอยู่อย่าเพิ่งถอดใจอาชีพเลี้ยงหมูเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีหากมีระบบการจัดการที่ดี
เทคนิคการเลี้ยงไม่มาก อย่างไรคนไทยก็ยังต้องบริโภคหมูเป็นหลัก
เลี้ยงมายังไงก็ยังขายได้ แต่อาจจะต้องใช้ประสบการณ์ในการแก้ปัญหา
อาจจะทำเกษตรผสมผสาน ควบคู่การเลี้ยงหมู หรืออาจทำเป็นอาชีพเสริมเลี้ยงใต้ถุนบ้านขายในหมู่บ้านของตน
ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ ถ้ารักอาชีพเลี้ยงหมูแล้วก็ให้สู้กันต่อไป
ส่วนเกษตรกรรายใหม่ที่คิดจะเลี้ยงก็อย่าเพิ่งกลัว เห็นราคาหมูตกแล้วหนีกันหมด
ก่อนจะเลี้ยงศึกษาให้ดี
เพราะบางครั้งวงการปศุสัตว์การเลี้ยงหมูก็ยังต้องการเกษตรกร ลูกหลานรุ่นใหม่ นำความรู้มาพัฒนาการเลี้ยงหมูให้สู้กับนายทุน
และต้นทุนที่สูงให้อยู่รอดต่อไปได้
สำหรับเกษตรกรที่สนใจอยากเลี้ยงหมู
หรือโทร. ปรึกษาเคล็ดลับดีๆ จากคุณรัชนีวรรณ
มั่นหมาย ได้